📣สาเหตุที่ทำให้แอร์เกิดความชื้น เชื้อรา และกลิ่นอับ💬

✅ แอร์ไม่สามารถระบายความชื้นออกได้ทั้งหมด

✅บางส่วนของแอร์ที่เปียกชื้นอยู่เสมอ เช่น ท่อน้ำทิ้ง ฟองน้ำที่หุ้มฉนวน แผ่นกรองฟิลเตอร์

✅ ความชื้นภายนอกตัวเครื่อง เช่น การวางภาชนะใส่น้ำไว้ในห้อง เช่น ตู้ปลา กระถางต้นไม้

✅ ความชื้นที่มาพร้อมกับฤดูฝน

————————————

สาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องปรับอากาศเกิดความชื้น เชื้อรา และกลิ่นอับ คือความชื้นที่สะสมอยู่ภายในเครื่องและระบบท่อ ซึ่งเชื้อราและแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและอับ 

สาเหตุหลัก

  • ไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานาน: ฝุ่นและสิ่งสกปรกจะสะสมบนคอยล์เย็นและแผ่นกรองอากาศ เมื่อเจอกับความชื้นที่เกิดขึ้นตามปกติจากการทำงานของแอร์ ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อรา
  • การระบายน้ำทิ้งมีปัญหา: หากท่อน้ำทิ้งอุดตัน ถาดรองน้ำทิ้งเต็ม หรือท่อไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสม จะทำให้มีน้ำขังอยู่ภายในเครื่อง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของเชื้อรา
  • มีน้ำขังภายในเครื่อง: ความผิดปกติของระบบ เช่น การทำงานของคอมเพรสเซอร์ผิดปกติ หรือฉนวนท่อแอร์เสื่อมสภาพ อาจทำให้มีน้ำขังในส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง ทำให้เกิดเชื้อราและความชื้นได้
  • เปิดแอร์ในโหมดลดความชื้น (Dry Mode) นานเกินไป: โหมดนี้เน้นการดึงความชื้นออกจากอากาศในห้อง ซึ่งอาจทำให้ความชื้นสะสมในตัวเครื่องได้มากขึ้น และหากไม่มีการระบายออกอย่างเหมาะสมก็อาจทำให้เกิดกลิ่นอับได้
  • ความชื้นจากภายนอก: การมีแหล่งกำเนิดความชื้นอื่น ๆ ในห้อง เช่น ตู้ปลา กระถางต้นไม้ หรืออากาศภายนอกที่มีความชื้นสูง ก็ส่งผลให้ความชื้นในห้องสูงตามไปด้วย
  • การรั่วซึมของอากาศภายนอก: หากประตูหรือหน้าต่างปิดไม่สนิท อากาศจากภายนอกที่มีความชื้นสูงก็จะสามารถเข้ามาในห้องได้ ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นและเกิดความชื้นสะสมได้ง่าย
  • การทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง: การล้างแอร์ทั่วไปอาจกำจัดได้เพียงฝุ่นละออง แต่ไม่อาจกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่ฝังแน่นตามส่วนต่างๆ ของเครื่องได้หมด ทำให้ปัญหาอาจกลับมาได้อีก 

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

  • ล้างแอร์เป็นประจำ: ควรล้างทำความสะอาดแอร์อย่างน้อย 4-6 เดือนต่อครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่น เชื้อรา และสิ่งอุดตัน
  • ไล่ความชื้นหลังใช้งาน: ก่อนปิดแอร์ ให้เปิดโหมดพัดลม (Fan Mode) ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพื่อไล่ความชื้นที่ค้างอยู่ในคอยล์เย็น
  • เปิดระบายอากาศ: ควรเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อให้อากาศถ่ายเทบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ควรปิดห้องทึบตลอดเวลา
  • ตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง: หากมีน้ำหยดหรือมีปัญหากลิ่นอับเรื้อรัง ควรตรวจสอบและทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน
  • ใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาด (กรณีแก้ไขด้วยตัวเอง): สามารถผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 เพื่อใช้ทำความสะอาดคราบเชื้อราในเบื้องต้นได้ 

หากลองแก้ไขด้วยวิธีข้างต้นแล้วกลิ่นยังไม่หายไป ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและทำความสะอาดอย่างละเอียด เนื่องจากอาจมีปัญหาที่ซับซ้อนกว่าปกติ

*AMC AIR สาระแอร์*

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *