BTU (British Thermal Unit) เป็นคำที่เรามักได้ยินเวลาซื้อแอร์ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่ามันสำคัญอย่างไร ในบทความนี้ เราจะพาคุณมารู้จัก BTU และเหตุผลที่ควรให้ความสำคัญเมื่อเลือกซื้อแอร์


BTU คืออะไร?

BTU คือหน่วยวัดความสามารถในการทำความเย็นของแอร์ แสดงถึงปริมาณความร้อนที่แอร์สามารถดึงออกจากห้องในหนึ่งชั่วโมง ยิ่ง BTU สูง ความสามารถในการทำความเย็นก็ยิ่งมาก


ทำไมการเลือก BTU จึงสำคัญ?

การเลือก BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้องส่งผลต่อ:

  1. ความเย็นที่เพียงพอ: BTU ที่เหมาะสมช่วยให้ห้องเย็นเร็วและคงที่
  2. การประหยัดพลังงาน: หากเลือก BTU ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เปลืองค่าไฟ
  3. ยืดอายุการใช้งานของแอร์: แอร์ที่ทำงานตามขนาด BTU ที่เหมาะสม จะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

ผลของการเลือก BTU ที่ไม่เหมาะสม

  • BTU ต่ำเกินไป
    • ห้องจะไม่เย็นเพียงพอ
    • แอร์ทำงานหนักตลอดเวลา เสียหายเร็ว
    • ค่าไฟพุ่งสูงเพราะแอร์ไม่ตัดการทำงาน
  • BTU สูงเกินไป
    • ห้องเย็นเร็วเกินไป แต่ความชื้นในห้องจะสูง
    • แอร์ตัดบ่อย ทำให้คอมเพรสเซอร์เสื่อมเร็ว
    • เปลืองเงินโดยใช่เหตุ เพราะแอร์ราคาสูงตาม BTU

คำนวณ BTU อย่างไรให้เหมาะกับห้อง?

สามารถคำนวณ BTU แบบง่ายๆ ได้ดังนี้:

  • BTU = ขนาดห้อง (ตร.ม.) x ค่าความเย็นที่เหมาะสม
    โดยค่าความเย็นจะแตกต่างกันตามการใช้งาน:
  • ห้องนอนปกติ: คูณด้วย 800-1000
  • ห้องที่มีแดดจัดหรือคนใช้งานเยอะ: คูณด้วย 1000-1200

ตัวอย่าง: ห้องขนาด 20 ตร.ม. ที่รับแดดจัด

BTU = 20 x 1200 = 24,000 BTU


สรุป

BTU ของแอร์มีความสำคัญอย่างมาก เพราะส่งผลต่อทั้งความเย็นในห้อง ค่าไฟ และอายุการใช้งานแอร์ เลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องและการใช้งาน เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าที่สุด!

Tips: หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือร้านค้า เพื่อช่วยแนะนำ BTU ที่เหมาะสม 😊

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *