ไม่จริง ค่า BTU ยิ่งต่ำกว่าขนาดห้อง ไม่ได้ช่วยประหยัดไฟเสมอไป แต่จะทำให้แอร์ทำงานหนักตลอดเวลา ทำความเย็นได้ไม่พอ ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและค่าไฟสูงขึ้น ดังนั้นควรเลือกขนาดแอร์ให้ เหมาะสมกับขนาดห้อง เป็นหลัก เพราะหากมีขนาดเล็กเกินไป จะต้องทำงานหนักและอาจเสียหายเร็ว 

ทำไมแอร์ BTU ต่ำเกินไปถึงไม่ช่วยประหยัดไฟ? 

  • ทำงานหนักตลอดเวลา:หากห้องมีขนาดใหญ่กว่าที่แอร์ขนาด BTU ต่ำรับได้ แอร์จะต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามทำความเย็นให้ถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้
  • คอมเพรสเซอร์ทำงานบ่อย:การทำงานหนักนี้ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องเปิด-ปิดบ่อยครั้ง ซึ่งกินไฟมากกว่าและอาจทำให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • ประสิทธิภาพลดลง:แอร์จะทำงานไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ ทำให้ห้องเย็นไม่ถึงอุณหภูมิที่ต้องการและอากาศยังคงชื้น

วิธีการเลือกขนาดแอร์ที่ถูกต้องเพื่อประหยัดไฟ:

  1. 1. คำนวณขนาด BTU ให้เหมาะสมกับห้อง:
    • สูตรเบื้องต้น: นำพื้นที่ห้อง (ตารางเมตร) คูณด้วย 350-400 สำหรับห้องทั่วไป หรือ 450-600 สำหรับห้องที่โดนแดดมาก เพดานสูง หรือมีคนหลายคน เพื่อให้ได้ค่า BTU ที่ต้องการ 
    • ตัวอย่าง: ห้องขนาด 20 ตารางเมตรที่โดนแดดน้อย ควรเลือกแอร์ประมาณ 7,000-8,000 BTU 
  2. 2. พิจารณาปัจจัยแวดล้อม:เช่น ทิศทางของห้องที่รับแดด, จำนวนคนในห้อง และการเปิดปิดประตูหน้าต่างบ่อยหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อความร้อนในห้องและปริมาณ BTU ที่ต้องใช้ 

สรุป: การเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU เหมาะสมกับห้องเป็นหัวใจสำคัญของการประหยัดพลังงาน ไม่ใช่การเลือก BTU ที่ต่ำจนเกินไป 

AMC AIR สาระแอร์บ้าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *