
ขนาดห้อง ขนาด BTU เท่ากัน
แต่ทำไมประหยัดไฟไม่เหมือนกัน
.
ทิศทางและระดับของแสงแดด
ห้องที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรงจะต้องการ BTU มากกว่าห้องที่มีแสงแดดส่องถึงน้อย
.
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในห้อง
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในห้องที่มีขนาดใหญ่และหนาแน่นจะกักเก็บความร้อนไว้ได้มากกว่า ทำให้ห้องเย็นช้าและต้องการ BTU มากกว่า
.
วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง
ห้องที่ผนังและหลังคามีฉนวนกันความร้อนที่ดีจะต้องการ BTU น้อยกว่า ห้องที่ไม่มีฉนวนกันความร้อน
ขนาด BTU ที่เท่ากันแต่ประหยัดไฟไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของรุ่นแอร์และค่าประสิทธิภาพพลังงาน (EER/SEER) โดยแอร์ที่มีเทคโนโลยีประหยัดไฟ เช่น อินเวอร์เตอร์ จะมีค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (EER) หรือ (SEER) ที่สูงกว่า ทำให้อัตราการใช้ไฟต่อ 1 BTU ต่ำกว่า (กินไฟน้อยกว่า) แม้จะมีขนาด BTU เท่ากัน นอกจากนี้ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่มีดาวมากกว่า ก็บ่งบอกถึงการประหยัดไฟที่มากกว่าด้วย
ปัจจัยที่ทำให้แอร์ BTU เท่ากัน แต่กินไฟต่างกัน
- เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ (Inverter): แอร์อินเวอร์เตอร์จะปรับรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม ทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานเต็มกำลังตลอดเวลา ส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลงและประหยัดไฟกว่าแอร์แบบธรรมดาที่คอมเพรสเซอร์จะเปิด-ปิดตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้
- ค่าประสิทธิภาพพลังงาน (EER/SEER):
- EER (Energy Efficiency Ratio): ค่าที่บอกประสิทธิภาพการทำความเย็นต่อการใช้พลังงาน
- SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio): ค่าที่บอกประสิทธิภาพการทำความเย็นตลอดฤดูกาล
- แอร์ที่มีค่า EER หรือ SEER สูงกว่า จะมีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟที่ดีกว่า
- ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: ฉลากนี้เป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงระดับการประหยัดพลังงานของแอร์ โดยจะมีระดับดาวบอกตั้งแต่ 1-5 ดาว (ในรุ่นใหม่ๆ) ซึ่งดาวที่มากกว่าหมายถึงประหยัดไฟมากกว่า
- การทำงานของคอมเพรสเซอร์: แอร์ที่ไม่มีระบบอินเวอร์เตอร์ จะมีพฤติกรรมที่คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเพื่อทำความเย็นให้ถึงจุดที่ตั้งไว้ ซึ่งอาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าแอร์อินเวอร์เตอร์ที่สามารถปรับระดับการทำความเย็นได้
*AMC AIR สาระแอร์
